ทานาคา

https://www.sanook.com/women/147141/

ทานาคา หรือ กาซาน่า โดยต้นทานาคาเป็นไม้เนื้อแข็งที่พบตามพื้นที่ในเขตแล้ง ตอนกลางของประเทศพม่า หรือแถบเมืองพุกาม มัณฑะเลย์ ชเวโบ เป็นสมุนไพรกับความงามที่มีกลิ่นหอมและเป็นสมุนไพรที่ใช้ประโยชน์ได้เกือบทุกส่วน อาทิเปลือกทานาคาจะนำมาใช้ประโยชน์เมื่อต้นทานาคามีอายุราว ๆ 35 ปี โดยตัดเป็นท่อนๆ ขนาดพอดีมือ แล้วนำส่วนเปลือกไม้มาฝน หรือบดกับหินขัด พรมน้ำลงไปเล็กน้อย จะได้ผงสีออกขาวเหลือง มาใช้ทาหน้า และตัว

ไม่พบหลักฐานว่าชาวพม่าใช้แป้งทานาคาประทินผิวกันเมื่อใด ข้อสันนิษฐานแรกคาดว่าชาวมอญได้รับอิทธิพลมาจากชาวฮินดูในประเทศอินเดียในการนำมาใช้ เพราะในราชสำนักของอินเดียมีธรรมเนียมการใช้ไม้จันทน์หอม (Sandal Wood) ทาบริเวณหน้าผาก และสันจมูกของราชโอรส ราชธิดาที่เพิ่งมีประสูติกาลเพื่อรับขว

ส่วนเปลือกของทานาคามีรสขม หอม ใช้แก้ไข้ ขับผายลม บำรุงจิตใจให้ชุ่มชื่น นิยมนำมาใช้ในตำรับยาหอม โดยบดให้เป็นผง แล้วชงกินกับน้ำอุ่น ช่วยบำรุงหัวใจ แก้วิงเวียนศรีษะ แก้อาการอ่อนเพลียได้ หรือนำมาเปลือกต้มกับน้ำร้อนให้หญิงหลังคลอดดื่มเพื่อช่วยบำรุงกำลัง

สมุนไพรเพื่อความงามโดยนำเปลือก และแก่นไม้ไปตากแห้ง แล้วนำมาฝน หรือบดเป็นผง ใช้ทานาคาผงทาตัว ทาใบหน้าเพื่อบำรุงผิว ลดผดผื่น สิว ฝ้า รอยด่างดำต่าง ๆ ปัจจุบันมีการนำทานาคามาใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ หรือทำผงทานาคาพอกหน้า ด้วยการผสมกับโยเกิร์ต หรือน้ำผึ้ง ในอัตราส่วน 3 ต่อ 1 แล้วพอกใบหน้าหรือผิวกายนาน 10 – 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

แก่นทานาคานิยมนำมาใช้เป็นยาดองเหล้า กินแก้กษัย (อาการป่วยเกิดจากหลายสาเหตุ มักทำให้ร่างกายทรุดโทรม ซูบผอม โลหิตจาง)

ช้ผสมกับน้ำสะอาดธรรมดา ไม่ควรอุ่นหรือเย็นเกินไป เป็นวิธีการดั่งเดิมที่ชาวพม่านิยมใช้บำรุงผิวมาช้านาน
กรณีเป็นสิวอักเสบ ใช้ทานาคาผงบรรเทาอาการได้ แต่ห้ามออกแรงขัดผิวแรง ๆ โดยเด็ดขาด เพราะยิ่งขัดสิวจะยิ่งเกิดมากขึ้น
ทานาคาเหมาะกับสภาพผิวทุกแบบ ทั้งผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม เวลาทาควรทาอย่างเบามือ สามารถนำทานาคา พอกหน้าทั้งคืนได้
เวลาล้างสมุนไพรทานาคาใช้เพียงน้ำธรรมดาล้างออก ไม่ควรใช้น้ำอุ่น และล้างให้เบาที่สุด ปล่อยน้ำราดบนหน้าสัก 2 – 3 นาที แล้วใช้ฝ่ามือลูบเบา ๆ ให้สะอาด
กรณีใช้ทานาคาผสมน้ำผึ้ง หรือน้ำมะนาว ระหว่าง ทาหน้า อาจนวดเบา ๆ ไปด้วย นานประมาณ 10 นาทีแล้วจึงล้างออก